2 ดารารุ่นเก่า “ครั้งหนึ่งเคยรักกัน” ฝ่ายชายล่วงลับ ฝ่ายหญิง 92 ปี นี่คือประวัติของทั้งสองครับ

วันที่ 12 มกราคม 2500 สตรีสาวสวยวัยบิญ เพพศคนหนึ่งเดินทางออกจากพระนครในรถด่วน จุดหมายปลายทางคือจังหวัดกำแพงเพชรเธอ ตั้งใจจะไปเยี่ยมมารดาที่นั่นระหว่างทาง แวะค้างคืนที่บริษัทป่าไม้ล่ำซ่ำถนนโกสี จังหวัดนครสวรรค์พอรุ่งขึ้นได้จับรถเม ประจำทางชื่อทันจิตซึ่งวิ่งระหว่างปากน้ำ โพธิกับตากวันละไม่กี่เที่ยวการเดินทาง ครั้งนี้นายทหารหนุ่มยศร้อยเอกทำหน้าที่ เป็นองคลักษณ์ติดตามไปด้วยสร้างความอุ่น ใจให้เธอมิใช่น้อยแต่อุ่นใจได้ไม่นานเหตุ การณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นขณะเดินทางรถ เมล์ประจำทางจอดรับส่งผู้โดยสารตามปกติ แต่ชาย 6 คนที่นั่งรถมาด้วยหาใช่ผู้โดย

สารโดยปกติไม่พอสบโอกาสพวกเหล่าร้ายสลัด ่าผู้โดยสารเป็นโจรใจโหดประกาศตนอย่าง แข็งกล้าดุดันว่านี่คือการปล้นมีทรัพย์ สินเท่าไหร่ส่งมาให้หมดไวเท่าความคิดคน ขับรถทั้ง 2 คนทำท่าจะเปิดประตูวิ่งหนี นั่นเท่ากับอนุญาตให้ความตายวิ่งเข้าหา ทันทีทั้ง 2 ร่างล้มลงลมหายใจเฮือกสุด ท้ายสิ้นสุดลงตรงนั้นแต่ยังไม่สิ้นกลิ่น ดินประสิวเหล่าทมิฬทั้ง 6 ได้เดินปรด ทรัพย์สินผู้โดยสารทีละคนสตรีสาวสวยผู้ ตั้งใจจะไปเยี่ยมมารดาที่กำแพงเพชรเห็น เหตุการณ์ทั้งหมดเธอนั่งหน้าซีดตัวสั่น แม้นายทหารหนุ่มจะพยายามให้ความปกป้อง เท่าใดความกลัวก็ไม่เคยปราณีใครมารสังคม

พวกนั้นเดินปลดทรัพย์ผู้โดยสารทีละคนและ ใกล้เข้ามาถึงเธอทุกขณะแต่ก่อนที่จะเข้า มาถึงเธอตกใจสุดขีดเป็นลมล้มพับลงตรงนั้น ทันทีเมื่อเดินทางมาถึงคิวของเธอที่ตอน นี้ได้หมดสติไปแล้วนายทหารหนุ่มองคครัก ได้กล่าวขึ้นอย่างห้าหาญว่าคนนี้ขอเสียคน เถอะนะเธอเป็นน้องสาวอั๊เองเมื่อหัวหน้า โจรได้ยินเช่นนั้นจึงตะโกนบอกบอกกับลูก น้องว่าไม่เอาเว้ยทหารไม่ต้องหลังจากปรวด ทรัพย์สินจากผู้โดยสารจนครบหมดสิ้นแล้ว เหล่าโจรทั้ง 6 ก็รีบพุ่งออกจากรถวิ่งหนี หายหน้าเข้าไปในป่าโปร่งด้านหนึ่งของถนน ทันทีเหตุการณ์ปุบปับฉับพลันอย่างที่ใคร ไม่ทันยังคิดเคราะห์ดีราปาฏิหาริย์ที่งาน

นี้ไม่มีใครจำได้ว่าผู้โดยสารสตรีสาวสวย วัยเบญจเพศคนนี้คือวิไลวันวัฒนพาณิชย์นาง เอกนางไทยอันดับ 1 ในเวลานั้นวิไลวรรณวัฒนพาณิชย์ผู้ได้รับสมยานามว่า ดาราเจ้าน้ำตาคนแรกของหนาไทยและเป็นนาง เอกตุ๊กตาทองคนแรกของบ้านเราจากหนัง เรื่องสาวเครือฟ้าออกฉายปี 2496 และต่อมาเธอได้รับรางวัลผู้แสดงนำ หญิงยอดเยี่ยมจากการจัดประกวดหนังยอด เยี่ยมครั้งแรกในปี 2500 วิไลวรรณ วัฒนพาณิชย์เป็นชื่อและนามสกุลจริงชื่อ เล่นแดงมีศักดิ์เป็นอาของพ่อมาช่า วัฒนพาณิชย์หรือเดิมเคยใช้ชื่อในการแสดง ภาพยนตร์ว่าพิมพ์วัฒนพาณิชย์นักร้องนัก แต่งเพลงนักแสดงและนางแบบชื่อดังแดงวิไลย

วรวัฒนพาณิชย์เกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2475 เกิดปีเดียวกันกับศรีเทาเพชรเจริญ อดุลรัตน์รัตนาภรอินทรกำแหงชนะศรีอุบลและ เปี๊ยกโปสเตอร์เป็นบุตรคนเดียวของพันเอก เอื้อและคุณแม่ทองคำวัฒนพาณิชย์ส่วนสูง 160 เซนติเมตจบการศึกษาจากเรียน ผดุงศิษย์วิทยาลัยครั้งเมื่ออายุ 15-16 ปีได้ติดตามคุณพ่อเป็นงานเลี้ยงที่ กระทรวงกลาโหมได้มีโอกาสพบกับสนั่นจรัด สิลป์ผู้อำนวยการสร้างหนังชื่อดังแห่ง สนั่นศิลปภาพยนตร์สนั่นถูกใจในความงามของ แดงวิไลวันมากมากจนกล้าขออนุญาตคุณพ่อทัน ทีที่จะนำเธอไปแสดงหนังในยุคสมัยที่อาชีพ ศิลปินเช่นดารานักร้องยังถูกเรียกอย่าง

ไม่เข้าใจว่าเป็นอาชีพเต้นกินรำกินต้อง นับว่าคุณพ่อของแดงวิไลวันเป็นคนหัวสมัย ใหม่มากท่านให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนคน เดียวของท่านเป็นคนตัดสินใจเองและนั่นคือ ที่มาของการได้เป็นดาราหนังของแดง วิไลวรรณวัฒนพาณิชย์หลังจากคำตอบในคืน นั้นเธอตอบว่าตกลงปี 2492 ได้เล่นเป็นตัวประกอบเล็กๆหนัง เรื่องเจ้าจอมหม่อมห้ามก่อนที่สนั่นจรัด สินจะให้เธอชิมรางแชงเกิดในหนังเรื่องแดน ดาวโจรในปี 2493 เล่นคูู่่กับพระเอกแห่งยุคสุรชาติ ไตรโภคจากนั้นได้เล่นหนังและละครจำนวน หนึ่งก่อนเธอจะมาประสบความสำเร็จเป็น อย่างมากในหนังเรื่องสาวเครือฟ้าปี 2496

และหนังที่ตอกย้ำให้เห็นว่าเธอแสดงบท ชีวิตได้ดีเยี่ยมโดยเฉพาะบทร้องไห้คือ เรื่องโบตันปี 2498 จนได้รับสมญานามว่า ดาราเจ้าน้ำตาเป็นคนแรกของเมืองไทยผลงาน เด่นๆต่อจากนั้นของเธอก็มีเรื่องนางทาส 1:7 หงษ์หยกรับบทเท้าวสุรนารีแสดงคู่กับ สุรสิทธิ์สัตยวงศ์ในนังไทยร่วมสร้างกับ บริษัทช br เรื่องสุรนารีปี 2500 เรื่อง คู่กรรมปี 2538 เคยเล่นหนังฮอลลีวูดถึง 3 เรื่องด้วยกันเช่นเรื่องสะพานข้ามแม่น้ำ แควปี 2500 แดงวิไลวรรณวัฒนพาณิชย์มีความ สามารถหลากหลายหนึ่งในนั้นคือการร้องเพลง ประกอบภาพยนตร์โดยเธอได้ร้องเพลงประกอบ ภาพยนตร์ถึง 2 เรื่องด้วยกันนั่นก็คือ

เรื่องร่มฟ้าเวียงพิงกับเรื่องเมืองแม่ หม่ายแดงวิไลวันสมรสครั้งแรกกับพันคำหรือ พร้อมสินศรีบุญเรืองพระเอกหนังร่วมยุค บุตรชายของบรมครูนักภาคทิเขียวินศรี บุญเรืองหลังจากเธอหย่าร้างกับพันคำได้ สมรสกับพระเอกหน้าหวานแก้มชมพูอดีตหนุ่ม ธนาคารอดุลดุลยรัตน์ทั้งสองมีบุตรด้วยกัน 1 คนคือน้ำฝนหิวดุลยรัตน์ภายหลังทั้งสอง แยกทางกันและเธอได้สำรสใหม่กับบุคคลนอกวง ครงการจนถึงปัจจุบันขอให้สุขภาพร่างกาย แข็งแรงขอให้มีความสุขมากมายครับ 11 เมษายน 2559 ชายชราวูบหมดสติไปต่อหน้า ครอบครัวเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่าง เร่งด่วนแพทย์ตรวจและวินิจฉัยพบว่าเกิด

อาการช็อกน้ำตาลจากโรคเบาหวานและยังพบอีก ว่าปอดติดเชื้อรุนแรงจนต้องส่งเข้าห้อง ICU โดยมีแพทย์และพยาบาลติดตามดูแลอย่าง ใกล้ชิดชายชราผู้นี้คืออดุลดุลยรัตน์นัก แสดงอาวุโสอดีตพระเอกและผู้กำกับชื่อดัง อดุลดุลยรัตน์นับถือศาสนาอิสลามมีชื่อ ภาษาอาหรับว่าอับดุลวาฮิดมีตำแหน่งเป็น คณะกรรมการของสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งประเทศ ไทยเขาเกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2475 ก่อนการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของไทย ไม่กี่เดือนเป็นชาวพระนครหรือ กรุงเทพมหานครโดยกำเนิดอดุลเป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนพี่น้อง 5 คนชาย 3 หญิง 2 จบ การศึกษาจากโรงเรียนอัสัมชันบางรักเรียน

จบแล้วทำงานแผนกบัญชีธนาคารกรุงเทพฯสำนัก งานใหญ่สาขาราชวงศ์ปี 2499 แท้ประกาศวุฒิสารหรือบุญแท้เหมบุตร ผู้สร้างผู้กำกับหนังชื่อดังจากบริษัท ภาพยนตร์ไทยไตรมิตรจำกัดเป็นลูกค้าประจำ ของธนาคารกรุงเทพฯสาขานี้เขามาใช้บริการ ทุกครั้งต้องพบกับพนักงานผู้นอบน้อมอ่อน โยนสุภาพเรียบร้อยอย่างอดุลดุลยรัตน์ทุก ครั้งด้วยความกัวรัวเสียเพชรเม็ดงามไปหาก ไม่คว้าไว้ก่อนด้วยรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา เป็นที่ถูกตาต้องใจของแท้ประกาศวุฒิสาร จึงได้ชวนเขาไปเล่นหนังเรื่องปาหหนัน ประกบกับนางเอกหน้าหวานจรัดศรีสายสิทธิ์ มารุหรือทวีนบางช้างกำกับการแสดงถ่ายทำ

หนังเรื่องปาหนันได้ไม่กี่ฉากจรีอมาตยกุล ผู้สร้างหนางเชื่อดังอีกรายหนึ่งซึ่งเป็น เพื่อนร่วมวงการของแท้ประกาศวุฒิสารก็ได้ มาขอตัวพระเอกใหม่ถอดด้ามอดุลดุลยรัตน์ไป เล่นหนังเรื่องสามรักในปารีสเพราะต้องยก กองถ่ายไปถ่ายถึงประเทศฝรั่งเศสจะรอช้า ไม่ได้อดุลเป็นพระเอกประกบกับนางเอกงามตา ศุภพงศ์อำนวยกลันิมิหรือครูเนรมิตกำกับ การแสดงเรื่องปาหหนันอดุลเล่นก่อนแต่หนัง ฉายทีหลังคือฉายเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2500 ที่ศาลาเฉลิมไทยส่วนเรื่องสามรักในปารีส อดุลเล่นทีหลังแต่หนังฉายก่อนคือฉายวัน ที่ 3 พฤศจิกายน 2499 ที่ศาลาเฉลิมไทยเช่นกันอดุล

ดุลยรัตน์ นับเรื่องสามรักในปารีสเป็นหนังเรื่องแรก ของตนและเขาได้เป็นพระเอกทั้ง 2 เรื่อง อดุลดุลยรัตน์ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มแบงค์ รูปหล่อเป็นพระเอกรูปงามสุภาพเรียบร้อย และขี้อายมากมีความเป็นสุภาพบุรุษอย่าง เอกุขนาดแดงรัตนาภรอินทรกำแหงนางเอกชื่อ ดังในยุคนั้นได้ตั้งชายาให้อดุลว่าพระเอก แก้มชมพูเพราะเวลาแสดงบทรักกับนางเอกเขา จะเขินอายจนแก้มเป็นสีชมพูอดุลจุรัตน์ เข้าวงการปีเดียวกันกับ 10 ตำรวจตรีพิชัย จิตรีขันหรือลือชัยนฤนาทพระเอกแก้มบุ๋ม ยิ้มเสน่ห์แต่พอเด็กปั้นของประทีปกมมลพิษ จากเรื่องชาติเสือปี 2501 อย่างมิชัย บัญชาเข้ามาเป็นพระเอกของวงการอดุลจึง

เปลี่ยนไปเป็นพระรองหรือเพื่อนพระเอกยืน ในระดับเดียวกันกับรุณภพประจวบฤกษ์ยามดี และชนะศรีอุบลเขาเป็นพระรองเคียงบากเคียง ไหล่กับมิชบัญชาเรื่องสามรักในปารีส วิไลวรรณวัฒนพาณิชย์นางเอกที่กำลังดังใน ยุคนั้นได้มาเป็นนักแสดงรับเชิญในเรื่อง และเพเลิกกับพันคำหรือพร้อมสินศรี บุญเรืองนักแสดงผู้สร้างและผู้กำกับชื่อ ดังได้ไม่นานวิไลวันกับอดุลพบรักกันในกอง ถ่ายสามรักในปารีสตกลงอยู่กินกันฉันสามี ภรรยาจนมีลูกด้วยกัน 1 คนคือน้ำฝนอนิว ดุลยรัตน์ก่อนทั้งคู่จะเลิกร้างกันไปอดุล ครองโสดมาหลายปีจนได้พบกับลัดาศรีประไพ นางเอกละครรหัตช่อง 4 บางขุนพรหมผู้หันมา

เอาดีในการเล่นหนังในนามของบุษรานรมิตร อย่างที่ทราบกันแล้วอดุลเป็นคนขี้อายขว่า จะกล้าเปิดใจพูดคุยกับสาวเพื่อนๆดาราจาก กองถ่ายหนังเรื่องดรุณีสีเลือดของป๋าส อาสนจินดาต้องร่วมมือร่วมแรงวางแผนให้ถึง ได้มีโอกาสสารภาพรักกับสาวเจ้าและเพื่อน ดาราที่ว่านั้นประกอบด้วยมิตรชัยบัญชา เพชรราเชาวราชปาสอาสนจินดาจุรีโอสิริรุ รณภพและดาราใครต่อใครอีกหลายคนในกองถ่าย ในครั้งนั้นวันที่ 11 พฤษภาคม 2510 อดุล ดุลยรัตน์เข้าพิธีทีแต่งงานกับบุษรา นรมิตรมีเสด็จพระองค์ชายใหญ่กับหม่อมปริม บุญนาคมาร่วมเป็นประธานในงานมีเพชรา เชาวราชกับกิ่งดาวดารณี 2 สาวเพื่อนสนิท

ของบุษรามาเป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วยอดุลกับ บุษรามีทายาทด้วยกัน 3 คนคนโตเป็นชายมี ชื่อว่าอดิสรซึ่งชื่ออดิศรนี้อดุลใช้เป็น ชื่อในการกำกับการแสดงของตนหลายเรื่องคน กลางชื่อนิราส่วนคนเล็กชื่อวดีปลายปี 2510 อดุลกำกับนทีวีเรื่องชุมทางชีวิตของ รัชฟิล์มทีวีเป็นเรื่องแรกปี 2513 กำกับ หนังเรื่องสวรรค์เบี่ยงเป็นเรื่องแรกส่วน ผลงานการเล่นหนังนั้นที่เด่นๆของอนุ ดุลยรัตน์มีหลายเรื่องเช่นนางสาวรดกเพชร ตัดเพชรคนกินเมียคู่กรรมและโหมโรงเป็นต้น ปี 2547 ได้รับรางวัลสุพรรณหงทองคำสาขา ผู้แสดงประกอบยอดเยี่ยมจากหนังเรื่อง โหมโรงปี 2553 ได้รับพระราชทานรางวัล

บันเทิงเทิดธรรมจากสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดา สยามบรมราชกุมารีในงานประกาศผลนายเตอร์ award 2010 ครั้งที่ 3 ของบริษัทอสมท จำกัดมหาชนขณะมีอายุ 78 ปีจนกระทั่ง 1 เดือนต่อมาและทีมแพทย์ให้การรักษาอย่าง สุดความสามารถแต่ก็ไม่อาจยืชีวิตเขาไว้ ได้ 13:30 นของวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 อดุลดุลยรัตน์ได้กลับไปสู่ความเมตตาของ พระอัลเลาะห์หรือเสียชีวิตอย่างสงบด้วย อาการปอดติดเชื้อรุนแรงจากอาการช็อกน้ำ ตาลของโรคเบาหวานสิริอายุ 84 ปีเขาเสีย ชีวิตหลังประจวบเลิกจามดีเพียง 1 วันเท่า นั้นญาตินำร่างประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม ในวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม

2559 เวลาหลังละหมาดวันศุกร์หรือประมาณ 14:00 นณสุสานมัสยิดฮารุซอยเจริญกรุง 36 ถนนเจริญกรุงแขวงและเขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 69 Stories ขอย้อนรำลึก อาลัยและก็อแสดงความเสียใจมาณที่นี้ด้วย ครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *