เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นายปัญญา อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลมณฑลทหารบกที่ 12 ที่ 88/2559 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2559
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองไปเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย, ร่วมกันพาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีเพื่อการอนาจาร, ร่วมกันโทรมหญิง, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายเสรีภาพ ชื่อเสียง,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
สืบเนื่องจากนายสำเริงได้มาแจ้งความว่า นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับนายสำเริง ได้ออกจากบ้านไปเมื่อประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 16 ก.ย.2558 เพื่อไปพบกับนายจตุรงค์ ซึ่งทราบว่าเป็นทหารเกณฑ์ที่คบหากันเป็นแฟนมาประมาณ 2 เดือน ที่โรงนอนทหารเกณฑ์แห่งหนึ่งในเมืองปราจีนบุรี
เมื่อนางสาวเอไปถึง นายจตุรงค์ได้พานางสาวเอขึ้นไปบนโรงนอนดังกล่าว จากนั้นนายจตุรงค์ได้ใช้กำลังข่มขืนกระทำชำเราจำนวน 1 ครั้ง จากนั้นได้มีเพื่อนของนายจตุรงค์ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์ด้วยกันประมาณ 5 คน ได้เข้ามาเวียนกันข่มขืนนางสาวเอ จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 17 ก.ย.2558 นางสาวเอ จึงได้กลับไปที่บ้านพักและได้เล่าเรื่องราวให้นายสำเริงทราบ นายสำเริงจึงได้พานางสาวเอมาร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องต่อไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีไปพื้นที่จังหวัดมุกดาหารจนกระทั่งพบแหล่งกบดานและสามารถบุกจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ขณะกำลังหลบหนีอยู่บริเวณบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 11 บ้านเหล่าหลวง ต.หนองแวง อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร จากนั้นได้ควบคุมตัวส่งไปยัง สภ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
